All-new Range Rover 2023 ใหม่ เตรียมเปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ส่วนรายละเอียดและราคาจำหน่ายต้องรอภายหลังจากการเปิดตัวอีกครั้ง
บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ Jaguar และ Land Rover อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ประกาศเตรียมเปิดตัว All-new Range Rover 2023 ใหม่ ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ที่จะถึงนี้ ภายหลังจากที่เปิดตัวในตลาดโลกเมื่อช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเน้นทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid เป็นหลัก สามารถขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลสุด 113 กิโลเมตรเมื่อชาร์จจนเต็ม
สำหรับ All-new Range Rover ใหม่ ถือเป็นเจเนอเรชันที่ 5 แล้ว ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม MLA-Flex ที่พัฒนาโดยแลนด์โรเวอร์เอง สามารถรองรับเครื่องยนต์ได้หลากหลายตั้งแต่เครื่องยนต์สันดาป, ปลั๊กอินไฮบริด และมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน โดยยังคงมีให้เลือกทั้งตัวถังแบบฐานล้อปกติ และฐานล้อยาว รวมถึงมีรุ่นห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่งในรุ่น Autibiography LWB เป็นครั้งแรกอีกด้วย
Range Rover 2023 ใหม่ มีจุดเด่นอยู่ที่ดีไซน์ภายนอกเน้นความเรียบหรู ติดตั้งไฟหน้าแบบ Digital LED ที่ประกอบด้วยแผ่นกระจกขนาดจิ๋ว (Digital Micro-mirror Devices - DMDs) จำนวนถึง 1.2 ล้านชิ้น ช่วยให้สามารถกระจายแสงได้อย่างละเอียด พร้อมด้วยไฟท้ายแบบ LED ที่กลมกลืนไปกับตัวถัง และจะมองเห็นได้เมื่อไฟสว่างขึ้นเท่านั้น ทั้งยังมาพร้อมระบบช่วงล่างแบบถุงลมทำงานคู่กับระบบกันโคลงแบบไฟฟ้า 48 โวลต์ ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลจากระบบนำทางในการปรับช่วงล่างให้เหมาะสมกับสภาพถนนด้านหน้าได้
ภายในห้องโดยสารถูกติดตั้งมาตรวัดแบบดิจิทัลขนาด 13.7 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนท์ Pivo Pro ขนาด 13.1 นิ้ว เสริมด้วยฟังก์ชันตอบสนองต่อการกดปุ่มด้วยการสั่น (Haptic feedback) เป็นครั้งแรก ขณะที่เบาะนั่งแถวหลังสามารถเลือกติดตั้งหน้าจอขนาด 11.4 นิ้วเป็นอุปกรณ์เสริมได้ อีกทั้งยังมีระบบเครื่องเสียงจาก Meridian พร้อมฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนที่พนักพิงศีรษะเป็นครั้งแรกอีกด้วย
ด้านขุมพลังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ในรหัส P440e ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 440 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 620 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 225 กม./ชม. หรือจะเป็นรหัส P510e ที่เพิ่มพละกำลังขึ้นเป็น 510 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เหลือเพียง 5.5 วินาที และเพิ่มความเร็วสูงสุดเป็น 242 กม./ชม. ทั้งคู่สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าได้เป็นระยะทางราว 113 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP
นอกจากนี้ Range Rover ใหม่ ยังมีเครื่องยนต์ Mild-hybrid รหัส P360 และ P400 ทำงานด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ให้กำลังสูงสุด 360 แรงม้า และ 400 แรงม้าตามลำดับ หรือจะเป็นรหัส P530 ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 ความจุ 4.4 ลิตร ที่ยกมาจาก BMW X7 ให้กำลังสูงสุด 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร
ขณะที่ขุมพลังดีเซล Mild-hybrid ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร แต่แบ่งความแรงออกเป็น 3 รหัส ได้แก่ D250 กำลังสูงสุด 249 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตร ตามด้วย D300 กำลังสูงสุด 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร และ D350 กำลังสูงสุด 350 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร โดยทุกรุ่นที่กล่าวมาข้างต้นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
ส่วนรายละเอียดและราคาจำหน่าย All-new Range Rover ในบ้านเราต้องอดใจรอการเปิดตัววันที่ 19 พฤษภาคมนี้
