เลือกซื้อรถยนต์มือสองอย่างไรให้พร้อมใช้งาน
พ.ค. 23
File Download : {title} {/CONTENTS_FILE}

ซื้อรถยนต์มือสองอย่างผู้เชี่ยวชาญให้ได้รถที่ดี ที่โดนใจ ต้องดูอะไรบ้าง เผยเทคนิค วิธีเลือกซื้อรถมือสองฉบับมืออาชีพ ทำตามนี้ ได้รถยนต์มือสองพร้อมใช้งานแน่นอน

1.เช็คปัญหาเฉพาะรุ่นผ่าน Google

ก่อนที่เราจะเลือกซื้อรถสักคัน การหาข้อมูลของรุ่นรถก็มีความจำเป็น เพราะรถบางรุ่นก็มีปัญหาเยอะเสียเหลือเกิน แต่พอไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนก็จะเกิดความเข้าใจผิดได้ง่ายๆ ว่าเกิดจากการใช้งานของเจ้าของรถคนก่อน อย่างนี้ไม่ถูกต้อง ดังนั้นการเช็กประวัติรถมือสองจึงสำคัญทางที่ดีควรเสิร์ชหาข้อมูล ข้อดี-ข้อเสีย และปัญหาของรถยนต์รุ่นที่ต้องการจะซื้อก่อนที่จะติดต่อซื้อขาย

นอกจากจะเสิร์ชหาข้อมูลของรุ่นรถยนต์ที่จะซื้อแล้ว ก็ควรเข้ากลุ่มตาม Socail ต่าง ๆ เพื่อสอบถามคำแนะนำการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพราะรถทุกรุ่นจะมีปัญหาประจำตัวอยู่

ประเมิณค่าซ่อมบำรุงอาการต่างที่อาจเกิดขึ้นโดยเฉพาะอาการหนักหากต้องซ่อมบำรุงว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าไร
และสามารถซ่อมได้หายขาดหรือไหม แล้วจึงค่อยตัดสินใจ ค้นหารถที่เราต้องการซื้อ

2. ตรวจเช็กสภาพรถยนต์

แม้ว่ารถบางคันจะระบุเข็มไมล์มาแล้วว่าวิ่งไปไกลเท่าไหร่ แต่บางครั้งระยะทางก็ดูเหมือนไม่ค่อยสัมพันธ์กับปีของรถยนต์ที่ซื้อมาเท่าไหร่ อย่าได้วางใจ เพราะอาการแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับรถยนต์ที่มีการตั้งเข็มไมล์ใหม่เพื่อให้สามารถขายได้ราคาดีขึ้น เนื่องจากวิ่งระยะทางน้อย นอกจากเข็มไมล์แล้วควรตรวจสอบเบาะที่นั่ง และพวงมาลัยว่ามีสภาพการใช้งานมานานขนาดไหน เช็กขอบประตู และดอกยางว่าสึกหมดหรือยัง เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เล่านี้เป็นสัญญาณของรถที่ใช้งานมาเยอะพอสมควร

3. ตรวจเช็คเครื่องยนต์

เป็นการตรวจเช็กสภาพของเครื่องยนต์ว่ายังมีการใช้งานที่ดีอยู่หรือเปล่า 
ในการตรวจเช็คเครื่องยนต์ ควรตรวจสอบดังนี้

3.1. เช็คตัวเครื่องว่ายังเป็นเครื่องเดิมๆหรือไม่ ไม่ควรมีการดัดแปลงเครื่องยนต์

3.2. เมื่อสตาร์ทรถยนต์ เครื่องต้องเงียบไม่มีเสียงดังกุกกัก หรือมีปัญหาระหว่างสตาร์ท

3.3. เปิดดูตัวเครื่อง เมื่อสตาร์ทรถแล้วว่ามีไอของน้ำมันเครื่องหรือไม่ ถ้ามีเครื่องอาจจะหลวมแล้ว

3.4. ต้องไม่มีรอยรั่วของน้ำและน้ำมันในจุดต่างๆ เช่น หม้อน้ำ น้ำมันหล่อลื่นที่จุดต่างๆ

3.5. เช็คแบตเตอรี่ ถ้าเปิดที่ปัดน้ำฝนแล้วทำงานช้าผิดปกติ หมายถึงแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม

4. เช็กสภาพของห้องเครื่อง

การเช็กสภาพห้องเครื่องเป็นการตรวจเช็กว่าภายในห้องเครื่องเริ่มมีสนิมจับ มีรอยบุ๋มลึก หรือร่องรอยเสียหายหรือไม่ โดยไม่ใช่เช็กแค่อุปกรณ์ที่ทำจากเหล็กเท่านั้น แต่ควรตรวจสอบท่อ และสายพานว่ามีรอยฉีกขาดหรือไม่ ตรวจสอบว่าแบตเตอรี่มีน้ำรั่วซึมหรือเปล่า

และอย่าลืมเปิดฝาน้ำมันเพื่อสังเกตว่ามีสารตกค้างเป็นฟองสีขาวเนื่องจากเคยเกิดการรั่วมาก่อนหรือเปล่า เพราะอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องเครื่องอาจเกิดปัญหาจากการดูแลรักษาที่ไม่ดีพอ

5.ตั้งขอสังเกตุหากพบราคาขายถูกมาก ๆ

หากพบว่าเป็นรถมือสองที่นำเข้ามา และขายในราคาที่ถูกมากๆ ให้ตั้งข้อสังเกตว่ารถคันนี้อาจเป็นรถที่นำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย หรือเป็นรถที่ย้อมแมวขายเพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายบางอย่าง ดังนั้นหากมีการแจ้งรายละเอียดว่าเป็นรถยนต์นำเข้าอย่าดีใจ แต่ต้องเช็กให้ละเอียดมากกว่าปกติเลยทีเดียว ทางที่ดีถ้าหากว่าไม่เชี่ยวชาญ หรือไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยตรวจเช็กสภาพรถ ก็ควรหลีกเลี่ยงการซื้อรถประเภทนี้ดีกว่า ไม่เช่นนั้นคุณอาจทำผิดกฎหมายได้โดยไม่รู้ตัว

6. ทดลองขับ

หลังจากที่ตรวจสอบสภาพรถยนต์มือสองต่างๆ อย่างครบถ้วนแล้ว ก่อนตัดสินใจรับซื้อรถยนต์มือสอง ควรทดลองขับรถเพื่อเช็กสภาพรถยนต์ครั้งสุดท้ายว่ามีอะไรที่ผิดปกติจากการขับหรือเปล่า เพื่อทดสอบระบบเบรก ระบบไฟ ศูนย์ถ่วงของรถ 

ตัวอย่างเช่น การหมุนพวงมาลัยซ้ายขวาให้สุด เพื่อฟังเสียงเครื่องยนต์ขณะแล่น การตรวจสอบระบบเบรก ว่าเมื่อเหยียบเบรกแล้วมีอาการสั่นไหม หรือว่าส่ายไปมาหรือเปล่า เพราะนั่นเป็นสัญญาณว่าคาลิปเปอร์เสื่อมคุณภาพ ฯลฯ แม้คุณจะเป็นมือใหม่ แต่ถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดการชำรุดหรือทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพก็สามารถรับรู้ได้ทันที

7. ตรวจสอบเอกสารการซื้อขาย ประกัน และ Service Book

เป็นขั้นตอนสุดท้ายของวิธีดูรถที่สำคัญอย่างมาก เพราะเมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อรถยนต์มือสองคันนี้ การตรวจสอบเอกสารควรตรวจสอบอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือสัญญาซื้อขาย เลขทะเบียนรถ รหัสเครื่องยนต์ว่าตรงตามของจริงหรือเปล่า ตรวจสอบกับประกันว่ารถยนต์คันนี้มีการชำระค่าเบี้ยครบหรือไม่ และ Service Book ว่าที่ผ่านมารถยนต์คันนี้มีการซ่อมบำรุงส่วนไหนไปบ้างแล้ว

และหลังจากที่ซื้อขายต้องมีสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขายเก็บไว้ด้วย เพราะหากมีปัญหาเรื่องการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองตามมาภายหลัง เอกสารเหล่านี้จะเป็นเครื่องยืนยันความถูกต้องได้

ตรวจสอบประวัติเต้นท์รับซื้อรถยนต์  หรือ ผู้ขายรถ จาก Google ว่าเคยมีประวัติการยอมแมวรถขายรึเปล่า
ที่สำคัญควรซื้อกับเต้นท์รับซื้อขายรถยนต์ที่มีการรับประกันเครื่องเกียร์ด้วยจะดียิ่งขึ้น



{/CONTENTS_IMAGE}





ติดต่อเช็คราคา