ควรเปลี่ยนผ้าเบรกเมื่อไหร่
พ.ค. 05
File Download : {title} {/CONTENTS_FILE}

ระบบเบรกถือเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญและจำเป็นที่จะต้องได้รับการบำรุงรักษาอย่างถูกต้องไม่ต่างกับส่วนอื่น ๆ เพราะมีหน้าที่ทำให้รถชะลอความเร็วหรือหยุดได้อย่างปลอดภัย และชิ้นส่วนที่เจ้าของรถสามารถตรวจเช็กด้วยตัวเองได้ก็คือ ผ้าเบรก ซึ่งเสื่อมสภาพได้ตามระยะเวลาและลักษณะการใช้งาน

ระบบเบรก และการทำงาน

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับระบบเบรกของรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันที่ใช้งานกันมากที่สุดมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกันก็คือ ดิสก์เบรก และ ดรัมเบรก

ดิสก์เบรก คือ ระบบเบรกที่อยู่ในรถยนต์เกือบทุกยี่ห้ออยู่ที่ว่าจะใช้ดิสก์เบรกแค่ 2 ล้อหน้า หรือทั้ง 4 ล้อ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแบรนด์นั้น ๆ ดิสก์เบรกจะประกอบด้วย จานเบรก, คาลิปเปอร์เบรก และ ผ้าเบรก ในส่วนของการทำงานทุกครั้งที่เรากดแป้นเบรกน้ำมันไฮดรอลิกในคาลิปเปอร์จะดันผ้าเบรกแต่ละแผ่นเข้าไปที่จานเบรก ทำให้เกิดแรงเสียดทานขึ้น ช่วยให้รถชะลอความเร็วลงลงและหยุดรถได้อย่างปลอดภัย

ดรัมเบรก คือ ระบบเบรกแบบปิดที่ใช้ในรถยนต์ หรือรถอื่น ๆ ช่วงแรกเริ่มซึ่งปัจจุบันยังพบเห็นได้ในรถยนต์ และรถบรรทุก ดรัมเบรกประกอบด้วย ผ้าเบรกทรงโค้ง, ก้ามปูเบรค หรือ ฝักเบรค, สปริง และลูกสูบที่ต่อเข้ากับสายเบรก ส่วนการทำงานของดรัมเบรกนั้นในทุกครั้งที่เราแตะเบรก ผ้าเบรกด้านในจะถูกแม่ปั๊มดันให้ไปติดกับด้านในของฝาครอบเบรค ซึ่งฝาครอบเบรคนี้จะยืดติดอยู่กับล้อรถ ทำให้เกิดแรงเฉื่อยช่วยชะลอความเร็ว และหยุดรถได้ในที่สุด

อาการเมื่อผ้าเบรกใกล้หมด

ตามที่กล่าวไปแล้วว่าผ้าเบรกคืออะไหล่ที่มีการเสื่อมสภาพ ซึ่งผู้ขับขี่รถยนต์สามารถคอยสังเกตได้ด้วยตัวเอง เมื่อพบกับอาการดังนี้ 

  • มีอาการเบรกต่ำ หรือต้องกดแป้นเบรกลึกมากขึ้น และรถชะลอความเร็ว หรือหยุดช้ากว่าเดิม

  • ทุกครั้งที่จอดรถจะต้องดึงเบรกมือสูงกว่าปกติ (กรณีผ้าเบรกล้อหลัง)

  • มีไฟเบรกมือขึ้นโชว์ที่หน้าปัดทั้งที่ไม่ได้ยกเบรกมือ เนื่องจากน้ำมันเบรกในกระปุกอยู่ต่ำกว่าขีด MIN เพราะผ้าเบรกที่บางลง

  • มีเสียงเหมือนเล็กเสียดสีกันทุกครั้งที่เหยียบเบรก ซึ่งในผ้าเบรกแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อนั้นจะมีเหล็กเตือนที่จะเสียดสีกับจานเบรกเพื่อแสดงว่าผ้าเบรกเหลือน้อยแล้ว

ผ้าเบรกควรเปลี่ยนเมื่อใด ?

แม้ผู้ผลิตผ้าเบรกจะระบุไว้ว่าผ้าเบรกนั้นจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 40,000-100,000 กิโลเมตร ซึ่งก็อาจเป็นจริงตามนั้น แต่ก็มีอีกหลาย ๆ ปัจจัยที่ทำให้ผ้าเบรกอาจไม่ได้ใช้งานได้ยาวนานขนาดนั้น เช่น ใช้รถยนต์บ่อยแค่ไหน ลักษณะการขับขี่ของแต่ละบุคคลเป็นอย่างไรขับเร็วหรือขับช้า รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ใช้ในการเดินทางต้องขึ้นเขาหรือพื้นที่สูงชันหรือไม่ นั่นทำให้อายุของผ้าเบรกในรถแต่ละคันนั้นอาจไม่เท่ากัน ซึ่งเราควรหมั่นสังเกตุและตรวจสอบเป็นประจำ โดยเฉพาะผ้าเบรกแบบดิสก์เบรกนั้นจะค่อนข้างหมดเร็ว กว่าผ้าเบรกแบบดรัมเบรกที่ใช้งานได้ยาวนานกว่า



{/CONTENTS_IMAGE}





ติดต่อเช็คราคา