10 วิธีดูแลรถยนต์ให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ
พ.ค. 31
File Download : {title} {/CONTENTS_FILE}

หากคุณมีรถยนต์คู่ใจที่ไม่ว่าจะเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ เรียกได้ว่าไปไหนไปกัน แต่ไม่ว่าจะใช้รถไปทำอะไรก็ตาม ก็ไม่ควรลืมที่จะดูแลรักษารถยนต์ของเราให้อยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

1. ตรวจเช็กลมยาง
  • วิธีดูแลยางนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ หมั่นเช็กและเติมลมยางให้สม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง
  • เติมลมให้พอดี แค่นี้ก็ช่วยป้องกันการสึกหรอของยางได้ดี และเป็นการดูแลรักษารถยนต์ ให้คงสภาพเหมือนใหม่ นอกจากจะช่วยในเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่แล้วยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย
2. ตรวจเช็กของเหลวในเครื่อง
  • ควรเช็กอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าเดือนละครั้ง ถ้าหากว่าทำการเช็กแล้วพบว่า ระดับของเหลวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำยาแอร์ และน้ำมันหล่อลื่น อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อน ๆ ควรที่จะเติมให้เรียบร้อยนะครับ ไม่งั้นถ้าปล่อยไว้นานจนแห้ง บอกเลยว่างานเข้าแน่ ๆ
  • หมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพื่อป้องกันคราบตะกอนต่าง ๆ ที่ฝังอยู่ภายใน เป็นวิธีดูแลรถยนต์ที่เราควรทำในทุก ๆ ปีหรือทุก ๆ ระยะที่กำหนดไว้ของแต่ละน้ำมันครื่องที่ใช้ เพราะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง คือการดูแลรักษารถยนต์ ซึ่งช่วยยืดระยะการใช้งานรถคู่ใจของเพื่อน ๆ ได้
    - นํ้ามันเครื่องธรรมดา กำหนดการเปลี่ยนถ่าย 7,000–7,500 กิโลเมตร
    - นํ้ามันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 10,000–15,000 กิโลเมตร
    - นํ้ามันเครื่องสังเคราะห์ 15,000–20,000 กิโลเมตร
  • หมั่นเช็กรอยหยดรั่วของน้ำและน้ำมันต่าง ๆ ใต้ท้องรถ ที่แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย แต่ก็ควรตรวจเช็กไว้ก่อนเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
3. ตรวจเช็กแบตเตอรี่เป็นประจำ
  • สังเกตว่ามีขี้เกลือขึ้นแบตเตอรี่หรือไม่ หากแบตเตอรี่ไม่สะอาดมีคราบขาว ๆ ซึ่งเกิดจากขั้วแบตเตอรี่หลวม ชำรุด น้ำกลั่นล้น หรือเกิดจากการขันตัวล็อกขั้วไม่แน่น รวมทั้งสายไฟเสื่อม
  • การดูแลรักษารถยนต์ ที่มีคราบขี้เกลือขึ้น ให้เพื่อน ๆ เอาน้ำอุ่นราดบริเวณที่เป็นขี้เกลือ ค่อย ๆ ราดลงไปอย่างระวังมือและใช้แปรงสีฟันขัด จากนั้นใช้ผ้าแห้งมาเช็ด ห้ามทิ้งคราบน้ำเหลือเพราะอาจจะทำให้เกิดสนิมได้ ปิดท้ายด้วยการทาจาระบีเคลือบ
4. ตรวจเช็กหัวเทียน
  • รถสตาร์ตติดยาก! สงสัยหัวเทียนบอด หลายคนคงคุ้นกับประโยคนี้ ถ้าไม่ยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนในโฆษณายุคก่อน ทุกครั้งที่เพื่อน ๆ ขับรถไปได้ 48,000 – 64,000 กิโลเมตรแล้วแต่รุ่นรถ ควรจะมีการเช็กสภาพของหัวเทียน หากพบว่ามีปัญหาอย่ารอช้าทำการเปลี่ยนโดยทันที
  • แล้วจะมีอาการเป็นอย่างไร ? ให้เพื่อน ๆ เช็กจากอาการรถยนต์เป็นหลัก เช่น เครื่องยนต์สะดุด ดับเบา หรือเร่งไม่ค่อยขึ้น มีอาการสั่น ๆ แปลก ๆ ชัดเจนว่ามีปัญหาเรื่องหัวเทียน
5. ตรวจเช็กสายพาน
  • การดูแลสายพานรถยนต์ เพื่อน ๆ สามารถเช็กได้ด้วยการใช้นิ้วมือกดสายพานเบา ๆ ซึ่งสายพานจะต้องไม่เปื่อย ไม่แตกลายงา
  • โดยปกติแล้วสายพานหน้าเครื่องรถยนต์แต่ละเส้นจะมีอายุการใช้งาน 50,000 กิโลเมตร หรือใช้ 2-3 ปีก็ต้องเปลี่ยน
6. เคลือบเงารถยนต์
  • วิธีดูแลรถยนต์คู่ใจให้เหมือนใหม่ เพื่อน ๆ ควรแว็กซ์สีรถยนต์หรือเคลือบสีรถยนต์ อย่างน้อยปีละ 2ครั้ง เพราะจะช่วยให้รถเงางาม สะอาด เหมือนถอยป้ายแดงออกมาใหม่ก็ว่าได้ รวมถึงยังทำให้สีรถไม่หม่นหมองและยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วนอีกด้วย
7. ล้างรถอย่างน้อยเดือนละครั้ง
  • การล้างรถช่วยให้ตัวรถดูสะอาดน่าใช้ พร้อมกับชำระล้างสิ่งสกปรกที่อาจมีฤทธิ์กัดกร่อนและฝังอยู่ในร่องที่เรามองไม่เห็นครับ
8. ทำความสะอาดห้องโดยสาร
  • ดูแลเกี่ยวกับเครื่องยนต์แล้ว อย่าลืมดูแลความเรียบร้อยภายในห้องโดยสารกันบ้าง โดยเฉพาะเบาะรถยนต์ซึ่งมักเป็นที่เก็บกักฝุ่นและแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดีเลยทีเดียว
  • ควรทำความสะอาดคราบสกปรกด้วยการนำเบาะไปซัก ดูดฝุ่น แล้วบำรุงอีกด้วยการใช้น้ำยาขัดหรือเคลือบให้เบาะรถดูสะอาดและใหม่อยู่เสมอนะเพื่อน ๆ รับรองว่าใหม่ทั้งภายในและภายนอก
9. ใช้ผ้าคลุมรถเมื่อไม่ได้ใช้งาน
  • การใช้ผ้าคลุมรถทุกครั้งขณะจอดไว้เฉย ๆ จะช่วยปกป้องรถของเพื่อน ๆ จากฝุ่น ขี้นก รวมไปถึงเศษหินหรือกิ่งไม้ต่าง ๆ ที่อาจมากระแทกจนทำให้เกิดรอยได้ โดยเลือกใช้ผ้าที่มีเนื้อเหนียวทนทานและไม่แข็งกระด้างจนขูดสีรถ ก็นับว่าเป็นวิธีดูแลรถยนต์ที่ทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ
10. สำรวจพฤติกรรมทำร้ายรถของตัวเอง
  • ฮิตสุดและหลายคนอาจไม่รู้ตัวเลย ก็คือ การจอดรถทิ้งไว้กลางแดดร้อน ๆ โดยเฉพาะแดดประเทศไทยถือว่าเป็นพฤติกรรมทำร้ายรถและเร่งให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วขึ้นไปอีก
  • บรรทุกของหนักบ่อย ๆ อาจทำให้เพื่อน ๆ ต้องเจอกับปัญหายางเสื่อม โช้คพังเร็วกว่าที่ควร


{/CONTENTS_IMAGE}





ติดต่อเช็คราคา