รถอายุเกิน 10 ปี ควรเลือกน้ำมันเครื่องแบบไหน
มิ.ย. 02
File Download : {title} {/CONTENTS_FILE}

รถเก่าใช้น้ำมันเครื่องแบบไหนดี แนะนำวิธีเลือก น้ำมันเครื่องสำหรับรถเก่า รถอายุเกิน 10 ปีขึ้นไป จะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ต้องเลือกที่มีค่าความหนืดมากเท่าไร เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด

 ในยุคสมัยนี้ รถยนต์ คือ ยานพาหนะที่แทบจะมีกันทุกบ้าน ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องดูแลบำรุงรักษารถยนต์ของเราให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เช่น ลมยาง ระบบไฟส่องสว่าง และแบตเตอรี่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่การดูแลจะต้องเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ตามอายุของรถเรา นั่นก็คือ น้ำมันเครื่อง

          น้ำมันเครื่อง คือ สารหล่อลื่นที่อยู่ในเครื่องยนต์ของรถเรา ช่วยปกป้องทุกชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ โดยทำหน้าที่เปรียบเสมือนฟิล์มที่ป้องกันการเสียดสีและลดการสึกหรอ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ สำหรับรถยนต์ใหม่ที่ผ่านการใช้งานมายังไม่มากนักอาจไม่มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับน้ำมันเครื่อง เพราะเครื่องยังน่าจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีอยู่

 แต่เมื่อรถผ่านการใช้งานไปมากขึ้น ก็อาจจะจำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่มากขึ้น และโดยมากปัญหาที่รถยนต์เก่าอายุเกือบ 10 ปี หรือเกิน 10 ปีขึ้นไปต้องเจอก็คือ ปัญหาน้ำมันเครื่องพร่อง น้ำมันเครื่องหาย ไปทั้งที่ไม่ค่อยใช้รถ และไม่มีจุดไหนรั่วซึม ทำให้เจ้าของรถต้องนำรถไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุ 

          แต่จริง ๆ แล้วสาเหตุหลักที่น้ำมันเครื่องหายไปนอกจากมาจากตัวเครื่องยนต์ที่หลวมตามอายุการใช้งานแล้ว การเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดน้อยเกินไปกับรถยนต์เก่าที่มีอายุมากก็มีส่วนที่ทำให้น้ำมันเครื่องหายไปได้เช่นกัน ดังนั้น เบอร์น้ำมันเครื่อง และการเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

วิธีดูเบอร์น้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องที่มีขายตามท้องตลาดบ้านเรามีอยู่หลายเบอร์ด้วยกัน เช่น 0W20, 5W30, 10W40 ซึ่งแต่ละตัวเลขก็มีความหมายที่แตกต่างกันออกไป ตัวเลขที่อยู่ข้างหน้า W หมายความถึงค่าการทนความเย็นของน้ำมันเครื่อง ส่วนตัวเลขที่อยู่ด้านหลังของ W หมายความถึงค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องในสภาพที่อากาศร้อน ถ้าตัวเลขยิ่งมากความหนืดก็จะมากตามไปด้วย 

รถยนต์เก่าควรใช้น้ำมันเครื่องแบบไหน

การเลือกน้ำมันเครื่องจากตัวเลขค่าความหนืดนั้นอาจไม่ตายตัว เพราะรถเก่าบางคันมีอายุการใช้งาน รวมถึงการสึกหรอของเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน แต่ที่เหมือนกันแน่ ๆ คือควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดสูงไว้ก่อน เช่น 15W30 หรือ 20W40 เพื่อช่วยลดปัญหาการกินน้ำมันเครื่องในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานอีกด้วย

          ทั้งนี้ นอกจากการเลือกน้ำมันเครื่องให้เหมาะกับอายุการใช้งานของรถแล้ว ก็อย่าลืมหมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนดด้วย เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ให้ได้นานขึ้นอีกด้วย



{/CONTENTS_IMAGE}





ติดต่อเช็คราคา