บริการรับซื้อรถยนต์ รับซื้อรถมือสอง ให้ราคาสูงที่สุด

เปิดข้อดี-ข้อเสียของการล้างรถตอนฝนตก จริงๆ แล้ว วันฝนตกอาจเหมาะกับการล้างรถ?


เปิดข้อดี-ข้อเสียของการล้างรถตอนฝนตก จริงๆ แล้ว วันฝนตกอาจเหมาะกับการล้างรถ? https://thailovercars.com/howto-car/8899

ถามมาให้แล้ว! บริษัทที่มีชื่อเสียงด้านการซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์ เผยข้อดี–ข้อเสียของการล้างรถในวันฝนตก

เจ้าของรถย่อมอยากให้รถคู่ใจดูสะอาดอยู่เสมอ หลายคนจึงล้างรถบ่อยๆ เพื่อให้เงางามเหมือนใหม่ตลอดเวลา

โดยทั่วไปแล้ว หลายคนมักเลือกวันที่อากาศแจ่มใสในการล้างรถ เพราะรู้สึกสบายและเหมาะสมกว่า

แต่ในทางตรงกันข้าม หลายคนมองว่าการล้างรถในวันฝนตกเป็นเรื่อง “เปล่าประโยชน์” หรือ “ไร้สาระ” ทว่าแท้จริงแล้ว กลับมีความเห็นว่าช่วงวันฝนตกต่างหากที่เหมาะแก่การล้างรถมากกว่า

ข้อดี–ข้อเสียของการล้างรถในวันฝนตก

ตามข้อมูลจากบริษัท Car Convenience Club Co., Ltd. ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์ ระบุว่า การล้างรถในวันที่ฝนตกนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่เช่นกัน

Photo By: Kaboompics.com

เริ่มจากข้อดีของการล้างรถในวันฝนตกกันก่อน

คราบสกปรกหลุดออกง่ายขึ้น

เมื่อบนตัวถังรถมีฝุ่น ทราย โคลน หรือแม้แต่ซากแมลงเกาะติด หากปล่อยให้แห้ง คราบเหล่านี้จะฝังแน่นและยากต่อการทำความสะอาด จนกลายเป็นคราบฝังลึกได้

แต่หากตัวรถเปียกฝน คราบสกปรกเหล่านี้จะนิ่มลง ทำให้ล้างออกง่ายขึ้น และช่วยให้การทำความสะอาดสะดวกกว่าเดิม

นอกจากนี้ ยังลดความจำเป็นต้องขัดแรง ๆ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดรอยขีดข่วนบนผิวรถได้อีกด้วย

ใช้น้ำประปาน้อยลง

เมื่อฝนตก ตัวถังรถจะเปียกอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมากในการล้างรอบแรกหรือขั้นตอนล้างฟองสุดท้าย บางครั้งแม้แต่การฉีดน้ำล้างรอบแรกก็สามารถข้ามไปได้ ขึ้นอยู่กับปริมาณฝนและระดับความสกปรกของรถ ดังนั้น การล้างรถในวันฝนตกจึงช่วยประหยัดน้ำประปาได้มาก

Karolina Grabowska

คราบแชมพูถูกชะล้างออกเอง

ตามปกติ หากล้างรถแล้วมีคราบแชมพูหลงเหลืออยู่ หลังจากแห้งอาจกลายเป็นคราบด่างหรือรอยดวง ต้องล้างน้ำออกอย่างพิถีพิถัน แต่หากฝนตก แม้จะมีคราบแชมพูตกค้างบ้าง ก็จะถูกชะล้างออกไปตามธรรมชาติ ลดโอกาสเกิดคราบด่างบนผิวรถได้

เมื่อรถเปียกฝน คราบสกปรกย่อมล้างออกง่าย ใช้น้ำน้อย และลดขั้นตอนการล้างได้ ถือเป็นข้อดีที่เห็นได้ชัด

แต่ในทางกลับกัน การล้างรถในวันฝนตกก็มีข้อเสียเช่นกัน

สิ่งสกปรกในอากาศเกาะบนผิวรถ

ในปัจจุบัน น้ำฝนมักปนเปื้อนสารมลพิษจากอากาศ เช่น ฝุ่นเหลือง หรือ PM2.5 หากล้างรถท่ามกลางฝน สารเหล่านี้อาจเกาะติดบนผิวรถได้

ผลก็คือ แม้จะเพิ่งล้างจนสะอาด แต่ตัวถังอาจกลับมาเลอะอีกครั้งเพราะสารปนเปื้อนในน้ำฝนนั่นเอง

เสี่ยงต่อการเกิดสนิมมากขึ้น

น้ำฝนมีลักษณะเป็นกรดอ่อนๆ เพราะมีการละลายของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศ ทำให้น้ำฝนกลายเป็น ฝนกรด ที่มีความเป็นกรดสูงขึ้น

การล้างรถท่ามกลางฝนกรด ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อชั้นสีของรถ แต่ยังทำให้ความชื้นซึมลึกเข้าไปภายใน จนไปถึงแผ่นเหล็กด้านในและก่อให้เกิดสนิมได้

โดยเฉพาะหากตัวถังมีรอยขีดข่วนอยู่แล้ว หรือมีสนิมมาก่อน การสัมผัสกับฝนจะยิ่งทำให้สภาพแย่ลงได้เร็วยิ่งขึ้น

ไม่สามารถเคลือบแว็กซ์หรือทำโค้ทติ้งได้

อีกหนึ่งข้อเสียของการล้างรถในวันที่ฝนตก คือไม่สะดวกต่อการทำงานขั้นตอนสุดท้ายอย่างการเคลือบแว็กซ์หรือโค้ทติ้ง เนื่องจากหากบนผิวรถยังมีความชื้นอยู่ สารเคลือบเหล่านี้จะไม่ยึดเกาะแน่น ทำให้ประสิทธิภาพลดลง

หากต้องการทำงานเคลือบผิว ควรเลือกวันที่ไม่มีฝนจะเหมาะสมกว่า แม้กระทั่งการล้างในพื้นที่ในร่ม แต่หากเป็นวันที่ฝนตก ความชื้นในอากาศสูงทำให้รถแห้งช้าลง จึงจำเป็นต้องเช็ดน้ำออกให้หมดอย่างพิถีพิถัน

หากต้องการล้างและทำงานต่อเนื่องให้เสร็จสมบูรณ์อย่างราบรื่น คำแนะนำคือควรหลีกเลี่ยงการล้างรถในวันฝนตกตั้งแต่แรก

เนื่องจากน้ำฝนมีสารต่าง ๆ จากอากาศละลายปะปนอยู่ จึงอาจกลายเป็นสาเหตุของคราบสกปรกหรือแม้กระทั่งสนิมได้

ดังนั้นการล้างรถในวันฝนตกจึงมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญกับด้านใดมากกว่ากัน จึงจะตัดสินได้ว่า “ควร” หรือ “ไม่ควร” ล้างรถในวันที่ฝนตก


ขอบคุณที่มา © sanook.com


รับซื้อรถกระบะ

รับซื้อรถมือสอง




ติดต่อเช็คราคา