กลับมาพบกับรีวิวจากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง ในรอบนี้ทีมได้นำอุปกรณ์สวมใส่รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Fitbit อย่าง Luxe ซึ่งมีจุดเด่นคือการแสดงผลด้วยจอสีแบบ และมีให้เลือกหลากหลายสี มาดูกันว่ามีความน่าสนใจแค่ไหน มาดูกันเลยครับ
เริ่มต้นกับดีไซน์ของ Fitbit Luxe จะมาพร้อมกับหน้าปัดขนาด 0.76 นิ้วเป็นแบบ AMOLED และสามารถสัมผัสได้ รวมถึงเวลาที่มีน้ำไหลก็สามารถสัมผัสได้ ฉะนั้นต้องระวังให้ดีในเรื่องนี้
รอบตัวเครื่องเป็นแบบ สแตนเลส ถ้าเป็นสายสีชมพู และ สีครีมตัวเครื่องจะเป็นสีเงาและดูเป็นสีทอง แต่สำหรับเครื่องสีดำ จะเป็นผิวแบบ Matte อย่างที่เห็นครับ
ข้างล่างจะมี Heart Rate Sensor ขั้วชาร์จส่วนสุดสามารถที่เป็นจุดเปลี่ยนสายนาฬิกา แค่สะกิดนิดหน่อยก็ออกแล้วและสามารถหาสายเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบโดยสามารถสั่งได้จากเว็บไซต์ของ Fitibit หรือ ทางออนไลน์สโตร์
มาตรฐานกันน้ำ
นอกจากรูปร่างหน้าตาที่ดูง่ายและเรียบหรูยังรองรับมาตรฐานกันน้ำได้ถึง 50 เมตร หรือ 5ATM เท่ากับคุณสามารถใส่อาบน้ำ ว่ายน้ำ ดำน้ำได้ แต่แนะนำว่าขึ้นจากน้ำควรทำความสะอาดให้แห้ง และเปิดโหมดล็อคหน้าจอไว้ด้วย
การเชื่อมต่อครั้งแรก
เริ่มต้นก่อนใช้งานมาดูการเชื่อมต่อครั้งแรกดีกว่า เพราะนอกจากรองรับทั้ง iOS และ Android แล้วการเชื่อมต่อคือคุณต้องมี Application Fitbit และนาฬิกาต้องอยู่ในสถานะชาร์จไฟอยู่ถึงจะเชื่อมต่อได้ ความพิเศษคือถ้าเป็น Android จะรองรับ Google Fast Pair เมื่อกดเข้าไป ถ้าคุณไม่ได้ดาวน์โหลด Application Fitbit มันจะเด้งหน้าให้ดาวน์โหลดแล้วเข้าสู่การติดตั้งทันที
ที่เหลือจะเป็นขั้นตอนปกติคือเชื่อมต่อ Bluetooth และ Link ข้อมูลมาหรือไม่ และแนะนำการใช้งานและวิธีดูแลรักษาแค่นั้นเอง
ระบบปฏิบัติการ / การสั่งงาน / การแจ้งเตือน
ในระบบปฏิบัติการจะคล้ายกับ Fitbit ในรูปแบบของ Fitness Tracker ทั่วไป โดดเด่นกว่าที่จะแสดงผลเป็นแบบจอสีที่มีความสวยงามและมีกราฟิกที่น่าสนใจไม่น้อย และหน้าจอสามารถ แตะ และ ปัด ได้ทั้งหมด 4 ทิศเช่น
ฟีเจอร์การดูแลสุขภาพ
Fitibit เองก็เป็นอีกยี่ห้อที่ผลิต Smart Watch มาเพื่อการดูแลสุขภาพเช่นเดียวกันและในรุ่น LUXE ก็มีฟีเจอร์มากมายเพื่อให้สุขภาพของคุณนั้นดีได้เริ่มจาก
ทำกับ Fitbit Luxe ก็ยังคงเน้นเรื่องการดูแลสุขภาพได้ดีอยู่มากมายตั้งแต่เวลาหลับและตื่น และก็ใช้งานได้ง่ายมากๆ เลยครับ
ส่องภายใน Application Fitbit
นอกจากเรื่องของการแสดงผลภายในนาฬิกา ส่วนของ Application Fitbit บนมือถือก็มีสามารถทำงานในเรื่องต่างๆ ได้เยอะมากมายไม่ว่าจะเป็น
สำหรับการอัปเดต Firmware ต้องทำผ่าน Application Fitbit เท่านั้นถึงจะแสดงผลและทำงานได้นั่นเอง
แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ
สำหรับแบตเตอรี่ของ Fitbit Luxe สามารถใช้งานได้ยาวนานสุด 5 วัน สำหรับการชาร์จจะต้องใช้ที่ชาร์จที่มีกับในกล่องเท่านั้นถึงจะสามารถจ่ายไฟเข้าไปได้ อาจจะมองว่าไม่สะดวกเวลาที่จะพกไปต่างประเทศ เพราะมีโอกาสที่จะหายได้ง่ายมาก
มาถึงจุดที่เราต้องสรุปกันแล้วสำหรับ Fitibit Luxe ที่เป็นรุ่นสูงกว่า Inspire2 และมีหน้าจอสีที่ดูดีและเซนเซอร์ครบทั้งวัดความเครียด วัดเรื่องของการตั้งท้อง แจ้งเตือนข้อความต่างๆ และรวมไปถึงวัดการนอนที่มีความแม่นยำ แถมใช้งานได้นานถึง 5 วัน เรียกได้ว่าเป็นอีก Smart Band ที่ครบทุกสิ่งที่คู่ควรจริงๆ แต่สิ่งที่น่าจะดีกว่านี้คือ ถ้าแสดงผลเป็นภาษาไทยได้ ก็จะครบจบในเรือนเดียว
สำหรับราคาของ Fitibit Luxe จะอยู่ที่ 4,990 บาท ถือว่าไม่ได้แพงมากมายอะไรนัก และยังมีขนาดเล็กเหมาะกับทุกคนที่ไม่ต้องการ Smart Band ขนาดใหญ่ แต่ฟีเจอร์ครบเครื่อง อีกเรือนหนึ่ง เห็นด้วยไหมครับ
จุดเด่น
ข้อสังเกต